ยูเครน ส่งโดรนโจมตีโรงงานโดรน-โรงกลั่นน้ำมันรัสเซีย

อย่างไรก็ดี ยุทธศาสตร์หนึ่งที่ยูเครนใช้ตอบโต้ในช่วงที่ผ่านมาคือ การโจมตีเป้าหมายทางการทหารและโรงกลั่นน้ำมันจากระยะไกลเข้าไปบนแผ่นดินรัสเซีย เพื่อตัดกำลังการผลิตอาวุธและทำลายแหล่งรายได้ที่รัสเซียนำมาใช้ในการขับเคลื่อนสงคราม

วานนี้ 2 เม.ย. ยูเครนได้ส่งโดรนร่อนเข้าไปโจมตีในรัสเซียอีกระลอก โดยเป้าหมายมีระยะห่างจากพรมแดนทางภาคตะวันออกของยูเครนไกลถึง 1,300 กิโลเมตร

ถือเป็นการโจมตีเข้าไปในรัสเซียที่ลึกที่สุดครั้งหนึ่ง พื้นที่หนึ่งที่ยูเครนส่งโดรนเข้าไปโจมตีระลอกล่าสุดคือเมือง “เยลาบูกา” สาธารณรัฐทาทาร์สถาน เขตปกครองของรัสเซียซึ่งเป็นภูมิภาคอุตสาหกรรมสำคัญและมีที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก

จากภาพจะเห็นว่าโดรนกำลังร่อนไปยังเป้าหมาย ก่อนที่จะพุ่งชนกับอาคารและระเบิดปะทุขึ้นเป็นลูกไฟ นี่คือส่วนหนึ่งของการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังอาคารของโรงงานผลิตโดรนของรัสเซีย

โรงงานแห่งนี้ใช้ในการประกอบโดรนรุ่น “เกรัน-2” หรือโดรนพลีชีพ โมเดลเดียวกันกับโดรนชาเฮดสัญชาติอิหร่าน ที่รัสเซียมักส่งเข้าไปโจมตียูเครนจากระยะไกล

ยูเครนส่งโดรนเข้าไปโจมตีที่นี่รวม 2 ลำ โดยไม่มีการระบุว่าเป็นโดรนชนิดใด สื่อในยูเครนรายงานว่า หน่วยงานที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้คือหน่วยข่าวกรองทหารยูเครนหรือ HUR จุดประสงค์ก็คือ เพื่อบั่นทอนกำลังการผลิตอาวุธของรัสเซีย

การโจมตีส่งผลให้อาคารบางส่วนที่ถูกโจมตีโดยตรงเสียหายหนัก ทางการรัสเซียระบุว่า อาคารที่โดรนของยูเครนพุ่งเข้าโจมตีคือหอพักของโรงงาน สอดคล้องกับการตรวจสอบภาพถ่ายของนักข่าวของสำนักข่าว Radio Free Europe ที่ระบุว่า นี่เป็นอาคารหอพักที่ใช้รับรองนักศึกษา รวมถึงนักศึกษาส่วนหนึ่งที่ถูกจ้างมาเพื่อช่วยประกอบโดรน รุสตาม มินนิคานอฟ

ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐทาทาร์สถาน ระบุว่า มีนักศึกษาได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีครั้งนี้ 13 คน นอกจากโรงงานประกอบโดรนพลีชีพในเมืองเยลาบูกาแล้ว อีกเป้าหมายที่ยูเครนส่งโดรนเข้าไปโจมตีคือ โรงกลั่นน้ำมัน “ทาเนโก” ของบริษัทโรซาเนฟ ที่เมืองนีซเนียคามสก์ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในสาธารณรัฐทาทาร์สถานเช่นกัน

ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของรัสเซีย โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 360,000 บาร์เรลต่อวัน

แหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนที่เกี่ยวข้องกับงานข่าวกรองยูเครนเปิดเผยต่อสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า โดรนได้พุ่งไปโจมตีบริเวณหอกลั่นน้ำมันดิบ ซึ่งใช้ในกระบวนการกลั่นขั้นแรก ก่อนที่จะแปรรูปน้ำมันดิบไปเป็นผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงอื่นๆ และการโจมตีส่งผลให้เกิดไฟลุกไหม้

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุว่าสามารถสกัดโดรนของยูเครนไว้ได้ก่อนที่จะร่อนเข้ามาโจมตีโรงกลั่นน้ำมันทาเนโก โดยใช้วิธีการก่อกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์จนโดรนตกลงบริเวณใกล้ๆ โรงกลั่น

สำนักข่าว RIA ของรัสเซียระบุว่า เกิดไฟลุกไหม้ประมาณ 20 นาทีก่อนที่จะสามารถควบคุมเพลิงได้ และความเสียหายไม่ได้ส่งผลให้กระบวนการผลิตชะงักลง

ภายหลังสำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า หอกลั่นน้ำมันดิบที่ถูกโจมตีคือ CDU-7 ซึ่งมีกำลังในการกลั่นน้ำมันดิบราว 155,000 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 6.2 ของกำลังการกลั่นน้ำมันทั้งหมดของรัสเซีย

การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันทาเนโกเมื่อวานนี้ ถือเป็นการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียครั้งที่ 18 หลังยูเครนหันมาใช้ยุทธศาสตร์โจมตีระยะไกลเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่โครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมันและเชื้อเพลิงของรัสเซีย ตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

จุดประสงค์คือ เป็นไปเพื่อบั่นทอนกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการสู้รบ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ยุทธศาสตร์เช่นนี้ยังมุ่งหวังที่จะบั่นทอนเศรษฐกิจและทำลายแหล่งรายได้สำคัญของรัสเซียที่ได้มาจากการส่งออกน้ำมัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะถูกนำมาใช้ในการขับเคลื่อนสงครามในยูเครน

เฮลิมา ครอฟต์ ประธานฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ RBC Capital Markets สถาบันการเงินระดับโลกให้ความเห็นต่อสำนักข่าวของ CNN ว่า ยุทธศาสตร์เช่นนี้ของยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของรัสเซียมากกว่ามาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ที่ชาติพันธมิตรตะวันตกประกาศต่อรัสเซียในช่วงปีแรกคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ไม่ว่าจะเป็นมาตรการห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียและการประกาศเพดานจำกัดราคาน้ำมันดิบรัสเซีย เพื่อลดรายได้ของรัสเซียที่จะได้รับจากการค้าน้ำมัน ซึ่งยังคงมีช่องว่างและทำให้รัสเซียยังคงมีรายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ หรือน้ำมันที่ผ่านการกลั่นแล้ว รวมถึงยังช่วยประคองเศรษฐกิจรัสเซียต่อไป

ทางการยูเครนประเมินว่า การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันหลายครั้งที่ผ่านมา ส่งผลให้กำลังการกลั่นน้ำมันของรัสเซียหายไปร้อยละ 12

ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สประเมินว่า กำลังการกลั่นน้ำมันของรัสเซียอาจลดลงไปถึงร้อยละ 14 ทางการรัสเซียเองก็ออกมายอมรับเช่นกันว่ากำลังการกลั่นลดลง โดยที่ไม่ได้ระบุว่าลดลงเท่าไหร่ อีกทั้งยังประกาศมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันแก๊สโซลีนชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาภายในประเทศพุ่งสูง

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญหลายรายให้ความเห็นต่อสำนักข่าว CNN ว่า ในการโจมตีไปยังโรงงานผลิตน้ำมันของรัสเซีย ยูเครนจงใจโจมตีไปที่หอกลั่นมากกว่าที่จะโจมตีไปยังคลังกักเก็บน้ำมัน และการโจมตีแบบระบุเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและมีระยะการบินที่ไกลเช่นนี้ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ซับซ้อนระดับหนึ่งคำพูดจาก สล็อตออนไลน์

คำถามคือ โดรนของยูเครนทำได้อย่างไร แหล่งข่าวยูเครนที่อยู่ในแวดวงเกี่ยวกับโดรน เปิดเผยต่อสำนักข่าว CNN ว่า สาเหตุที่โดรนของยูเครนสามารถโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียจากระยะไกลได้ค่อนข้างแม่นยำในช่วงที่ผ่านมา

ไม่ได้เกิดจากการเลือกใช้โดรนที่มีระยะทำการไกลและมีขีดความสามารถขั้นสูงอย่างเดียวเท่านั้น แต่โดรนบางส่วนยังอาศัยปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอระดับพื้นฐาน เพื่อช่วยกำหนดเส้นทางบินไปยังเป้าหมายอย่างแม่นยำและหลบหลีกระบบก่อกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์

โนอาห์ ซิลเวีย นักวิเคราะห์และวิจัยจาก Royal United Services Institute สถาบันคลังสมองในสหราชอาณาจักรระบุว่า เทคนิคที่ยูเครนใช้เรียกว่า “machine vision” นั่นคือ การสร้างโมเดลเพื่อให้โปรแกรมที่จะบรรจุในชิปของโดรนสามารถเข้าใจข้อมูลภูมิประเทศของเส้นทางและระบุพิกัดของเป้าหมายได้ โดยที่ไม่ต้องอาศัยสัญญาณคำสั่งจากดาวเทียม หมายความว่า การบินของโดรนที่ใช้เอไอเช่นนี้เป็นการบินเองแบบอัตโนมัติ

อย่างไรก็ดี คริส ลินคอล์น-โจนส์ อดีตเจ้าหน้าที่ทหารของกองทัพสหราชอาณาจักรและผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามโดรนและเอไอให้ความเห็นว่า เอไอที่ใช้ในโดรนเช่นนี้ยังคงมีระดับสติปัญญาที่ต่ำ และเทคโนโลยีเช่นนี้ยังคงอยู่ในระยะแรกเริ่มของการพัฒนา

ขณะที่ยูเครนใช้ยุทธศาสตร์โจมตีระยะไกลเพื่อทำลายเป้าหมายทางการทหารและเป้าหมายที่จะนำไปสู่การบั่นทอนเศรษฐกิจรัสเซียรัสเซียก็ยังคงเดินหน้าโจมตีทางอากาศใส่ยูเครนด้วยโดรนและขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน อย่างไรก็ตาม การโจมตีในเขตพลเรือนยังคงเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะ ตลอดช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา

การโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดในยูเครนเกิดขึ้นช่วงเย็นวานนี้ เวลา 16.40 น. โดยประมาณ พื้นที่ที่รัสเซียยิงขีปนาวุธเข้าไปโจมตีคือเมืองดนีโปร ในแคว้นดนีโปรเปตรอฟสก์ทางตอนกลางของยูเครน อาคารที่ได้รับความเสียหายคือโรงเรียนแห่งหนึ่ง

เซอร์ฮี ลีซัค ผู้ว่าการแคว้นดนีโปรเปตรอฟสก์ระบุว่า เด็กนักเรียนลงไปหลบอยู่ในหลุมหลบภัยได้ทันเวลา หลังจากที่เสียงสัญญาณเตือนภัยดังอย่างไรก็ดี มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีครั้งนี้อย่างน้อย 18 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 5 คน

นอกจากการโจมตีทางอากาศใส่ยูเครนอย่างหนักหน่วง รัสเซียยังได้เปรียบในการสู้รบที่แนวรบทางภาคตะวันออกของยูเครน เนื่องจากกำลังพลที่มีจำนวนมากกว่า

ล่าสุด กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียได้ลงนามในกฤษฎีกาเรียกเกณฑ์ทหาร เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา

นี่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียกเกณฑ์ทหารตามรอบปกติของรัสเซีย ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี โดยในครั้งนี้ ทางการรัสเซียเรียกเกณฑ์พลเรือนเข้ามาทั้งหมด 150,000 คน ตามกฎหมาย พลเรือนรัสเซียที่ถูกเกณฑ์ผ่านวิธีนี้ไม่สามารถถูกส่งไปรบในต่างประเทศ รวมถึงในยูเครนได้

อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรเคยออกมาเปิดเผยว่า รัสเซียเคยส่งทหารเกณฑ์ที่มาจากช่องทางนี้หลายร้อยคนไปยังยูเครน หลังจากบีบบังคับให้เซ็นสัญญา อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการระดมพลรอบใหม่เพื่อทำสงครามในยูเครนอาจเกิดขึ้น เนื่องจากผ่านพ้นช่วงเลือกตั้งไปแล้ว

แผ่นดินไหวรุนแรงใกล้เกาะไต้หวัน ญี่ปุ่นแจ้งเตือนสึนามิ

อีก 500 ปี ญี่ปุ่นจะมีแต่คนนามสกุล “ซาโต” ทั้งประเทศ!

พยากรณ์อากาศล่วงหน้า เตือน “พายุฤดูร้อน” รับมือ ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง